สัญญาณบวก ชัยชนะของมิลานต่อลิเวอร์พูล สะท้อนความเวิร์ค อัลเลกรีบอล

ดูหนังออนไลน์ โพสต์โดย : Admin เมื่อ 28 ก.ค. 2568 18:41:30 น. เข้าชม 0 ครั้ง

7 กรกฎาคม คือวันที่ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ในวัย 57 ปี ประกาศเปิดตัวในฐานะเฮดโค้ช เอซี มิลาน อย่างเป็นทางการ และเป็นการกลับมาในะถิ่น ซาน ซิโร ในรอบ 11 ปี หลังเคยคุมทัพ ‘ปีศาจแดงดำ’ ระหว่างปี 2010-2014 พร้อมพาทีมคว้าแชมป์เซเรีย อา ได้ในปี 2011

อย่างไรก็ตาม หากเมื่อ 11 ปีก่อน ‘มิลาน’ คือทีมระดับแชมป์เซเรีย อา แต่ในตอนนี้ พวกเขาคือทีมที่เพิ่งจบฤดูกาล 2024/25 ด้วยอันดับที่ 8 ของตาราง และไม่ได้ไปเล่นบอลยุโรปแม้แต่รายการเดียวในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ในการแถลงข่าวเปิดตัวกับทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 7 สมัยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โค้ชระดับแชมป์ลีกสูงสุดอิตาลี 6 สมัยอย่าง ‘แม็กซ์ อัลเลกรี’ จึงกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า “เป้าหมายแรกของเราคือการพาทีมกลับไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้เท่านั้น เพราะทีมอย่าง นาโปลี, อินเตอร์, ยูเว, โรมา, ลาซิโอ และ อตาลันต้า ยังอยู่เหนือกว่าเรา”

อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับที่อดีตโค้ชยูเวนตุสจะนำมาสู่ ‘มิลาน’ ไม่ใช่อะไรที่ซับซ้อน แต่เป็นวิธีที่สะท้อนถึงตัวเขาเป็นอย่างดี นั่นคือ “การทำงานหนัก” ซึ่งสื่ออิตาลีนับแล้วว่าเป็นคำที่ อัลเลกรี เอ่ยออกมามากที่สุดในการแถลงข่าววันนั้น

จนถึงวันนั้นสู่วันนี้เป็นเวลาเพียง 20 วัน อัลเลกรี ใช้เวลาอุ่นเครื่องปรีซีซันเพียง 2 นัดกับ 2 ทีมที่ดีที่สุดในอังกฤษเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่าง อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นว่า บอลเกมรับแบบเขาอาจจะเป็นความหวังที่สดใสของ ‘รอสโซเนรี’ ในแบบที่สื่ออย่าง La Gazzetta dello Sport ชื่นชมว่า “นี่คือ เอซี มิลาน ฉบับ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี อย่างเป็นทางการ” โดยเฉพาะกับการชนะแชมป์พรีเมียร์ลีก 4-2 เมื่อวานนี้

ในเกมกับ ‘หงส์แดง’ อัลเลกรีใช้แผน 5-4-1 แบบเน้นความรัดกุมตามสไตล์ โดยเน้นการปิดพื้นที่ไม่ให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ กับ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มีพื้นที่เล่นแบบง่าย ๆ และแม้ลูกทีมของ อาร์เนอ ชล็อต จะครอสบอลเข้ามากดดันหลายต่อหลายครั้ง แต่ 3 เตอร์แบ็คในชุดสีเหลืองอย่าง ฟิคาโย โทโมรี, มาลิค เทียว และ สตราฮินยา ปาฟโลวิช ก็ปัดเป่าความอันตรายไปได้เกือบหมด พร้อมกับมี ซามูเอเล ริชชี กองกลางตัวรับรายใหม่จาก โตริโน เป็นคีย์แมนในการปิดพื้นที่ตรงกลาง

ตลอดทั้งเกม ลิเวอร์พูล ได้ครองบอลมากถึง 68% และได้ยิงมากถึง 18 ครั้ง มากกว่ามิลานซึ่งได้ยิงเพียง 10 ครั้ง แต่สื่อแดนมักกะโรนีวิเคราะห์ว่า แม้แข้งมิลานจะตั้งรับเป็นหลัก แต่เป็นการตั้งรับในแบบที่ไม่ได้ถูกคุมคามตลอดเวลา ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเกมรับที่เริ่มหนาแน่นและเล่นได้อย่างมีสมาธิ ซึ่งก็เป็นลายเซ็นต์ที่ชัดของ ‘อัลเลกรี’ อย่างปฏิเสธไม่ได้

อีกทั้ง สิ่งที่ “อัลเลกรีบอล” แสดงให้เห็นในเกมชนะ ‘หงส์แดง’ ไม่ใช่เฉพาะเกมรับที่แน่นหนาตามสไตล์อิตาเลียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเล่นเกมโต้กลับที่น้อยจังหวะ แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพและความเฉียบขาด โดยมีคีย์แมนในการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกคือ ‘ราฟาเอล เลเอา’ ซึ่ง อัลเลกรี เน้นย้ำหลังเข้ามารับตำแหน่งว่า ถึงเวลาที่ตัวเขาต้องเป็นหลักเป็นแหล่งและเป็นที่พึ่งของทีมอย่างเต็มตัวแล้วในวัย 26 ปี

“นี่คือ เอซี มิลาน ฉบับ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี อย่างเป็นทางการ เกมรับแน่น, สมดุล, ทนต่อความยากลำบากได้ และพร้อมจะต่อสู้เพื่อแย่งบอลกลับมาในทุก ๆ จังหวะ รวมถึงยังมีความสามารถในการเล่นเกมโต้กลับ โดยใช้ความได้เปรียบจากความเร็วของ ราฟาเอล เลเอา นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะมันแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ อัลเลกรี นำมาติดตั้งให้ทีมมันเริ่มเห็นผลแล้ว“

“เอซี มิลาน กลับมาเล่นแบบมีความมั่นใจในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดฤดูกาล 2024/25 ในวันแถลงข่าวเปิดตัว อัลเลกรี เน้นย้ำตลอดถึงการทำงานหนักในเกมรับ เพราะทีมที่จะเป็นแชมป์ มักคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด อัลเลกรี รู้ดีว่า หากเขากำจัดความผิดพลาดในการเล่นแบบที่โค้ชคนเก่าของทีมอย่าง เปาโล ฟอนเซก้า และ แซร์โจ้ คอนไซเซา ทำไว้ได้ เขามีโอกาสพาทีมไปได้ไกลกว่าอันดับ 4 ด้วยซ้ำ” สื่ออย่าง Gazzetta ชื่นชม

“สิ่งที่ผมพอใจมากที่สุดคือ การทำงานหนักตลอด 20 วันที่ผ่านมาของลูกทีม ในเกมวันนี้ (กับลิเวอร์พูล) เรามีทัศนคติที่ดีมาก และยกระดับความอดทนในการเล่นขึ้นมา เราครองบอลได้ดี แต่ในเกมรับทุกคนก็ช่วยกันได้อย่างเต็มที่ นี่ถือเป็นผลงานที่ดี แต่เรายังไม่ควรดีใจกันมากเกินไป เพราะมันก็แค่อุ่นเครื่องเท่านั้น” แม็กซ์ อัลเลกรี กล่าวทิ้งท้ายหลังจบเกมชนะลิเวอร์พูล เว็บพนันที่ดีที่สุด )

ปิดโฆษณานี้

ปิดโฆษณานี้