เรอัล มาดริด ภายใต้การนำของประธานสโมสร ฟลอเรนติโน เปเรซ เสริมทัพในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้รวมแล้วล่าสุด 178 ล้านยูโร มากที่สุดในรอบ 6 ปี แถมยังคิดเป็น 45% ของยอดการเสริมทัพ 20 ทีมในลาลีการวมกันล่าสุด พร้อมเป็นรองเพียงแค่ เชลซี และ ลิเวอร์พูล เท่านั้นในด้านการใช้เงินซื้อนักเตะมากที่สุดในโลก
‘ราชันชุดขาว’ มักถูกวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนทีมอื่นถึงนโยบายการเสริมทัพของทีม โดยเฉพาะกับการที่มักจะคว้านักเตะที่หมดสัญญากับสโมสรอื่นมาร่วมทีม หรือ ‘ฟรีเอเย่นต์’ ซึ่งเกิดขึ้น 4 ดีลในรอบ 4 ปีหลังสุด ได้แก่ ดาวิด อลาบา ในปี 2021, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ในปี 2022, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ในปี 2024 และล่าสุดในซัมเมอร์นี้อย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเสริมทัพในซัมเมอร์นี้เผยออกมาว่า ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 15 สมัย ทุ่มเงินกับการเสริมทัพไปมากถึง 178 ล้านยูโร โดยใช้ไปกับ ดีน เฮาเซน 58 ล้านยูโร, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 7 ล้านยูโร (จ่ายเพื่อให้ ลิเวอร์พูล ปล่อยตัวมาเล่นฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ), ฟรังโก้ มัสตานตูโอโน 63 ล้านยูโร (รวมค่าตัว, ภาษี, ค่าธรรมเนียม, ค่าบำรุง) และ อัลบาโร การ์เรราส 50 ล้านยูโร
ซึ่งการทุ่มเงินด้วยจำนวนดังกล่าว ถือเป็นการใช้เงินในตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่มากที่สุดในรอบ 6 ปีของ ‘โลส บลังโกส’ โดยครั้งล่าสุดที่ทีมมีการใช้จ่ายกับการซื้อนักเตะมากกว่านี้ต้องย้อนไปในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2019/20 ซึ่งในครั้งนั้นใช้ไปทั้งหมดประมาณ 361 ล้านยูโร จากการทุ่มเงินซื้อ เอเด็น อาซาร์ 120 ล้านยูโร, ลูก้า โยวิช 63 ล้านยูโร, เอแดร์ มิลิเตา 50 ล้านยูโร, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ 48 ล้านยูโร และ โรดรีโก้ 45 ล้านยูโร
มากไปกว่านั้น ในบรรดา 20 ทีมลาลีกาที่จะลงแข่งในฤดูกาล 2025/26 มีการเสริมทัพรวมทั้งหมดล่าสุดตอนนี้ 390 ล้านยูโร ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมาจากการใช้เงินของฝั่ง เรอัล มาดริด ไปแล้ว 45% ในขณะที่ทีมจอมทุ่มอันดับ 2 ของลีก ได้แก่ แอตเลติโก มาดริด ที่ใช้เงินซัมเมอร์นี้ไปทั้งหมด 107 ล้านยูโร เท่ากับว่า ในการเสริมทัพของลาลีกาทั้งหมด ณ ขณะนี้ ประมาณ 72% มาจาก 2 ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงมาดริด
( doohee )
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ Transfermark ในตลาดซื้อขายนักเตะปัจจุบัน เรอัล มาดริด คือทีมที่ใช้เงินซื้อนักเตะมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียง เชลซี (243 ล้านยูโร) และ ลิเวอร์พูล (213 ล้านยูโร) เท่านั้น