วิสัยทัศน์ ปารีส แอฟเซ เน้นสร้างเยาวชน ต้นแบบคือบาร์ซา สร้างความแตกต่างเปแอสเช เป้าหมายคือพื้นที่บอลยุโรป

ดูหนังออนไลน์ โพสต์โดย : Admin เมื่อ 20 ก.ค. 2568 11:48:27 น. เข้าชม 3 ครั้ง

สโมสรปารีส แอฟเซ ก่อตั้งเมื่อปี 1969 แต่ถึงจะเป็นสโมสรจากเมืองหลวงฝรั่งเศส พวกเขากลับเคยเล่นในลีกเอิงเพียงแค่ 3 ฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปถึงปี 1979 

อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาล 2024/25 การรอคอยของแฟนบอลของ ปารีส แอฟเซ สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อสโมสรของพวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จในรอบ 46 ปี แถมยังเป็นการเลื่อนชั้นอย่างมีความหวังด้วยการมี 2 กลุ่มทุนที่ทรงพลังที่สุดในโลกอย่าง LVMH และ Red Bull เป็นผู้ถือหุ้นหลักของสโมสรจากการเทคโอเวอร์เมื่อประมาณ 8 เดือนที่แล้ว 

พร้อมกับมี ปิแอร์ แฟร์รัชชี นักธุรกิจชาวฝรั่งเศส และเป็นผู้ก่อตั้ง Groupe ALPHA บริษัทให้คำปรึกษาทางเศรษฐกิจ นั่งดำรงตำแหน่งประธานสโมสรของทีมมากตั้งแต่ปี 2012

ซึ่ง ‘แฟร์รัชชี’ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อสเปนอย่าง Marca พร้อมเผยถึงเป้าหมายของทีมว่า “เป้าหมายของเราคือการจบในพื้นที่ยุโรปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะกับการไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงการสร้างศูนย์ฝึกซ้อมที่ดีที่สุดในฝรั่งเศส”

ในส่วนของการสร้างความแตกต่างจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งจะเป็นคู่แข่งร่วมเมืองในฤดูกาลหน้า ประธานวัย 73 ปีระบุว่า “เราจะสร้างทีมแบบเน้นระยะยาว โดยเน้นที่การปั้นเด็กเยาวชนท้องถิ่น จึงมีโอกาสสูงที่เราจะซื้อนักเตะระดับท็อปน้อยกว่า เปแอสเช ที่เลือกเดินในเส้นทางที่พวกเขามองว่าเติบโตเร็วกว่า แม้จะใช้เวลาถึง 14 ปีกว่าจะได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม

ในขณะที่สโมสรต้นแบบของ ปารีส แอฟเซ ‘แฟร์รัชชี’ กล่าวว่า “ผมมีสองสโมสรที่เป็นทีมโปรด ทีมหนึ่งอยู่ในอิตาลี ในขณะที่อีกทีมคือ บาร์เซโลนา แม้ผมอยากจะสร้างทีมในแบบของเรา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า บาร์ซาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผม โดยเฉพาะกับการสร้างเด็กเยาวชนระดับสูงสุด การสร้างศูนย์ฝึกของทีมเป็นทั้งการสร้างรายได้และทรัพยากรนักเตะของทีม”

เศรษฐีตระกูลอาร์โนลต์ เจ้าของกลุ่ม LVMH และเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตัดสินใจร่วมมือกับ Red Bull บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังระดับโลกผู้เป็นเจ้าของทีมกีฬามากมาย เช่น อาร์เบ ไลป์ซิก, เร้ด บูล ซัลซ์บวร์ก, รวมถึงทีมในฟอร์มูลา วัน อย่าง เร้ด บูล เรซซิง เข้าเทคโอเวอร์ ปารีส แอฟเซ พร้อมกับแสดงจุดมุ่งหมายของการเข้าควบรวมสโมสรครั้งนี้ผ่าน อ็องตวน อาร์โนลต์ ลูกชายของ เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ว่า

“การลงทุนครั้งนี้เป็นเรื่องของ ‘ความรู้สึก’ มากกว่า ‘ธุรกิจ’ สิ่งที่น่าแปลกคือ ในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่างปารีส กลับมีสโมสรใหญ่เพียงแห่งเดียว (เปแอสเช) ซึ่ง ปารีส แอฟเซ ก็เป็นสโมสรที่มีโครงสร้างดีอยู่แล้ว พร้อมมีทีมที่ดีและประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ขาดเพียงเงินทุนเท่านั้นที่จะผลักดันสโมสรให้ไปได้ไกลกว่านี้”

ซึ่งในฐานะประธานสโมสรยาวนาน 13 ปีอย่าง  ปิแอร์ แฟร์รัชชี เขาก็ได้กล่าวถึงความคาดหวังต่อการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ว่า “มันจะเป็นการลงทุนครั้งสำคัญ ทุนที่เราได้มาจะถูกนำไปสร้างศูนย์ฝึกซ้อมสองแห่ง และสนามเหย้าหนึ่งแห่ง รวมถึงจะถูกนำไปซื้อนักเตะเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงเล่นลีกเอิง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่จะเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุดในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส”

อีกทั้งเมื่อถามถึง ‘เยอร์เก้น คลอปป์’ ซึ่งปัจจุบันทำหน้าหัวหน้าฝ่ายฟุตบอลของ Red Bull ประธานชาวฝรั่งเศสก็ได้ตอบว่า “เขามีความสำคัญอย่างมากต่อเรา เขามาเยี่ยมสโมสรของเราแล้วประมาณ 2 ครั้ง และจะกลับมาอีกเรื่อย ๆ เยอร์เก้นจะทำหน้าที่ดูแลทุกการตัดสินใจของสโมสรที่ Red Bull ถือหุ้นอยู่ เขาสร้างอิมแพคต์ที่ส่งผลดีต่อสโมสรอย่างมาก”

ทั้งนี้ ในตลาดซื้อขายนักเตะปัจจุบัน ปารีส แอฟเซ ใช้เงินเสริมทีพไปแล้ว 18 ล้านยูโร โดยเป็นการซื้อนักเตะในตำแหน่งแบ็คซ้ายทั้งหมด ได้แก่ ติโบต์ เดอ สเม็ต กับ โนอา ซ็องกี จาก สต๊าด เดอ แร็งส์ และ โมซีส ไซมอน จาก น็องต์ 

ปิดโฆษณานี้

ปิดโฆษณานี้