ดังนั้นคำที่เขาแนะนำให้กับรุ่นน้องรายนี้เพียงข้อเดียวก็คือ "นายอย่าลืมไปฝึกพูดภาษาอังกฤษเยอะ ๆ นะ" ซึ่งจากนั้นไม่นาน สเปอร์ส ก็จัดการเซ็นสัญญากับ ยาง มิน-ฮยอก มาร่วมทีมด้วยราคา 3 ล้านปอนด์
ตัวของ ยาง มิน-ฮยอก เป็นเหมือนกับเด็กรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้แทบทุกคนที่มี ซน เป็นไอดอล โดยตัวของเขาเล่นในตำแหน่งเดียวกันคือเป็นตัวรุกริมเส้นที่ยิงประตูได้ดี และจุดเด่นคือเรื่องของการพยายามยกระดับตัวเองอยู่เสมอ ไม่กลัวซ้อมหนัก ไม่กลัวการเข้ายิม และไม่กลัวที่จะแสดงฝีเท้าของตัวเองออกมาเต็มที่เมื่อเผชิญหน้านักเตะที่อายุมากกว่า
"ศักยภาพของ ยาง มิน-ฮยอก ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเล่นแค่ในเกาหลีใต้และเราเห็นสิ่งนั้นตอนเขาอายุ 17 ปี ครั้งหนึ่งเราเล่นปรีซีซั่นกับ ดินาโม มอสโก แล้วเด็กคนนี้ก็ทำให้ทุกคนตะลึง พรสวรรค์ในแง่ของการสร้างสรรค์เกมสูงมาก มันจะทำให้เขาสู้กับคนอื่น ๆ ในพรีเมียร์ลีกได้ ... เขารวดเร็ว เล่นทั้งเท้าซ้ายและขวา มีความคล้าย ซน ฮึง-มิน มาก ๆ ทั้งในและนอกสนาม"
"ถ้าคุณได้เจอกับเขาคุณจะพบว่าเขาเป็นเด็กที่ถ่อมตัวและขี้อาย แต่เขาเป็นคนที่ไม่กลัวการแข่งขัน ไม่กลัวความกดดัน และชอบที่จะสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม ตลอดเวลาที่เขาอยู่เกาหลีใต้ เขาหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์โดยตรงกับรายการทีวีใหญ่ ๆ ในประเทศหลายครั้ง ซึ่งเราไม่เคยบอกให้เขาทำแบบนั้นเลย เขาเลือกจะทำมันด้วยตัวเอง เพราะเขาเป็นคนที่หมกมุ่นกับเรื่องฟุตบอลมาก ๆ"
"การไปอังกฤษมันเป็นเรื่องยากเสมอ แต่ผมบอกเขาว่าจงรักษาระดับความมุ่งมั่นนี้ของตัวเองเอาไว้ พยายามพัฒนาตัวเองให้ได้ภายใน 2-3 ปี ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง ผมไม่กังวลอะไรสำหรับเขา เพราะนี่คือเด็กที่ใจเย็นและมีเหตุผลเสมอ" คิม บยองจี ซีอีโอของ กังวอน ผู้เคยเป็นนายทวารทีมชาติเกาหลีใต้กล่าว
นั่นจึงทำให้ ยาง มิน-ฮยอก กลายเป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ และทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ใน เค-ลีก โดยเจ้าตัวได้โอกาสลงสนามไป 25 นัด ทำได้ 8 ประตู และ 4 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ สเปอร์ส คว้าตัวเขามาครอง
และที่ ลอนดอน เขาได้พี่เลี้ยงที่ดีที่สุดเท่าที่นักเตะเกาหลีใต้คนหนึ่งจะหาได้ เพราะ ซน ฮึง-มิน เป็นคนที่ทำหน้าที่ดูแลเขาเหมือนกับน้องชายในช่วงแรก ๆ ที่เขาย้ายมา
ซน พยายามระมัดระวังไม่ให้ใส่แรงกดดันมากเกินไป เพราะ ยาง ยังอายุน้อย สิ่งที่เขาพยายามบอกยางคือความยากของพรีเมียร์ลีกที่เหนือกว่าระดับความยากของ เคลีก ไปอีกมาก
ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันอย่างใกล้ชิด เช่น ฝึกซ้อม กินอาหาร รักษาตัวหลังฝึก รวมถึงลงอ่างน้ำเย็นด้วยกัน ซึ่งช่วยยางปรับตัวเร็วขึ้น และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ยาง มิน-ฮยอก ก็ถูกส่งยืมตัวไปอยู่กับ คิวพีอาร์ อีกหนึ่งทีมจากลอนดอน ที่ลงเล่นในระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
ก่อนย้ายออกไปยืมตัว ซน ฝากคำแนะนำว่า “อยู่ให้ห่างจากการบาดเจ็บ เก็บประสบการณ์ให้มาก ๆ กลับมาด้วยร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็น”
การไปเล่นใน ลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ของ ยาง มิน ฮยอก ในช่วงครึ่งซีซั่นหลังเป็นไปแบบที่เขาตั้งใจ เขาได้ลงสนามต่อเนื่อง มีโอกาสลงเล่นในลีกรวม 14 เกม ยิงไป 2 ประตู และทำไปอีก 3 แอสซิสต์ ไม่เลวนักสำหรับเด็กอายุ 18 ปี (ณ เวลานั้น) ที่ได้เล่นฟุตบอลยุโรปเป็นครั้งแรก
คำชมมากมายจากกลุ่มนักเตะและเฮดโค้ชของ มาร์ตี้ ซิฟวนเตส ที่บอกว่า ยาง มิน-ฮยอก เป็นนักเตะที่เรียนรู้ได้ไวมาก แรกเริ่มเขาใช้ ยาง ในฐานะตัวสำรอง แต่การลงมาแต่ละครั้งเขาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของทีมในเชิงบวกได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะทิ้งท้ายว่ามีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะเล่นให้กับทีมใหญ่อย่าง สเปอร์ส ได้ หากเขาพัฒนาขึ้นอย่างเหมาะสมในช่วงเวลาหลังจากนี้
"ยาง กำลังเติบโต และต้องยอมรับว่าเขาเรียนรู้ไวมากในเรื่องของจังหวะการเล่นของเกม มันทำให้เขามีผลงานยอดเยี่ยม เพียงแต่ตอนนี้เขายังเป็นเด็กหนุ่มที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไปในบางด้าน แต่คุณไม่ต้องห่วง ผมคิดว่าเขาจะเติมเต็มสิ่งที่ขาดได้ด้วยทัศนคติของเขานี่แหละ"
"นี่คือนักเตะที่เป็นเด็กดีนอกสนาม และเป็นคนที่อันตรายในสนามตรงที่มีความเร็วพาบอลทะลุทะลวงไปข้างหน้า หรือแม้แต่การถอยลงมาช่วยเกมรับ ผมคิดว่าการเล่นแบบดวลตัวต่อตัวของเขา อยู่ในระดับที่คุณสามารถคาดหวังได้เลยแม้จะอยู่ในระดับลีกที่สูงกว่านี้" ซิฟวนเตส กล่าว
3-4 เดือนเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่ คิวพีอาร์ ผ่านไป และยาง มิน ฮยอก กลับมายังสังกัดแม่อย่าง สเปอร์ส อีกครั้งในการปรีซีซั่นครั้งนี้ ด้วยร่างกายที่แข็งแรงขึ้น เก็บประสบการณ์มากขึ้นแบบที่ลูกพี่ของเขาบอกไว้ตั้งแต่แรก
จากนี้ไปคือช่วงเวลาที่ดีสำหรับเขาที่จะได้รับการถ่ายทอดบทเรียนต่าง ๆ จากนักเตะเอเชียที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อย่าง ซน ฮึง-มิน ซึ่งนี่เป็นโอกาสที่ไม่มีนักเตะเกาหลีใต้คนไหนจะได้รับเหมือนกับเขาอีกแล้ว
ซน ไม่ได้เป็นแค่กัปตันทีมสเปอร์ส แต่ยังเป็นต้นแบบของนักเตะเอเชียในพรีเมียร์ลีก ยาง มิน-ฮยอก จะได้เรียนรู้ทั้งเรื่องของวินัย การใช้ชีวิต ความมุ่งมั่นในสนาม การซ้อม และการรับมือกับความกดดัน
นอกจากนี้เขาจะยังได้ฝึกซ้อมกับโค้ชมืออาชีพระดับสูง ทีมแมวมอง นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และนักเตะคุณภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยพัฒนาเขาได้ทั้งในแง่เทคนิค แท็กติก ความฟิต และสมรรถภาพทางจิตใจได้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่นอน
แม้ ณ เวลานี้ สเปอร์ส จะมีนักเตะตัวรุกหลายคนในทีมแต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ ยาง มิน-ฮยอก ยังมีลุ้นกับการแย่งพื้นที่และโอกาสลงสนาม เนื่องจากสเปอร์สเพิ่งเปลี่ยนโค้ชใหม่มาเป็น โทมัส แฟรงค์ ซึ่งเป็นกุนซือที่เน้นเรื่องตำแหน่งตัวริมเส้นที่ยิงประตูได้ดี และช่วยเล่นเกมรับได้ตลอดทั้งเกม ซึ่งเป็นสไตล์ของเขาพอดีด้วย
อย่าลืมว่า ยาง มิน-ฮยอก อายุ 19 ปีเท่านั้นในเวลานี้ .... การที่เขาได้เล่นเกมระดับสูง และมีไอคอนของวงการฟุตบอลเอเชียอย่าง ซน ฮึง-มิน เป็นพี่เลี้ยง มันเป็นอะไรที่น่าติดตามอย่างยิ่ง
พรสวรรค์ และความมุ่งมั่นที่เขามี จะถูกนำทางโดยนักเตะที่เคยไปถึงจุดที่ทำให้คนทั้งโลกยกย่องคนเอเชียมาแล้ว ...
นี่คือส่วนผสมที่ลงตัว และมันทำให้เราอยากจะเห็นว่า ยาง มิน-ฮยอก จะไต่ระดับไปได้ถึงไหน? หรือว่าโลกนี้จะมีนักเตะเอเชียที่เก่งกว่า ซน ฮึง-มิน ได้