MENU
หน้าแรก
ข่าว
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลาลีกา สเปน
กัลโซ่ เซเรียอา อิตาลี
บุนเดสลีกา เยอรมัน
ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก
ข่าวฟุตบอลไทย
ข่าวสารคาสิโน บาคาร่า
คลิปไฮไลท์ฟุตบอล
ทีวีออนไลน์
คลิปไฮไลท์
ทีเด็ดบอล
วิเคราะห์บอล
โปรแกรมบอล
ผลบอลสด
ดูบอลออนไลน์
ราคาไหล
ตารางคะแนน
ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ตารางคะแนนลาลีก้า สเปน
ตารางคะแนนกัลโซ่ เซเรียอา อิตาลี
ตารางคะแนนบุนเดสลีกา เยอรมัน
ตารางคะแนนลีกเอิง ฝรั่งเศส
ตารางคะแนนไทยพรีเมียร์ลีก
เว็บบอร์ด
ไปต่อหรือพอแค่นี้ แอตเลติโก มาดริด ยุค ซิเมโอเน ถึงเวลาก้าวข้ามขีดจำกัดหรือยัง
ดูหนังออนไลน์
โพสต์โดย : Admin เมื่อ 25 มิ.ย. 2568 10:36:34 น. เข้าชม 1 ครั้ง
แชร์ Facebook
แชร์ Twitter
แชร์ Google+
แชร์ Line
แอตเลติโก มาดริด ตกรอบแรกศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเมื่อคืนนี้ไม่สามารถเอาชนะ โบตาโฟโก้ ได้ตามเป้า คือ ต้องระยะห่าง 3 ประตูเท่านั้น และแม้จะมี 6 แต้มจากการชนะ 2 จาก 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม แต่การแพ้ เปแอสเช ถึง 0-4 ในเกมแรก ส่งผลให้ผลต่างประตูได้เสียเป็นรองทั้งทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) และ ทีมแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส (โบตาโฟโก้)
เกมเมื่อคืนนี้ กับการที่ต้องยิงอย่างน้อย 3 ประตูเพื่อเข้ารอบ ลูกทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน ได้จบสกอร์ถึง 25 ครั้ง แต่ปรากฏว่าเข้ากรอบเพียง 5 ครั้ง และกับการต้องเจอทีมที่ หลุยส์ เอนรีเก้ ชมว่าเกมรับดีที่สุดตั้งแต่ตัวเขาเคยเจอมา วิธีการเข้าทำหลักของ ‘โชโล‘ คือการครอสบอลเข้าไปในกรอบ ซึ่งทำมากถึง 35 ครั้ง แต่เข้าเป้าเพียง 8 ครั้งเท่านั้น (แม่นยำ 22.9%)
เป็นเรื่องที่ปฏิเสธได้ยากว่า การที่ทีมที่ดีที่สุดอันดับ 3 ของสเปน และเป็นทีมที่กำลังจะได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 13 ฤดูกาลติดต่อกัน ต้องมาตกรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ที่เปรียบเสมือนฟุตบอลโลกเวอร์ชันสโมสร เป็นเรื่องที่ ‘ล้มเหลว’
อย่างไรก็ตาม หลังจบเกม ดิเอโก้ ซิเมโอเน กล่าวว่า “เรารู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถเข้าสู่รอบต่อไปได้ ผมภูมิใจกับลูกทีมทุกคน พวกเขาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว เราเก็บได้ถึง 6 แต้ม (จาก 9 แต้ม) แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่เพียงพอ เกมนี้เราเล่นได้ตามมาตรฐานและสร้างโอกาสได้หลายครั้ง แต่หลายจังหวะไม่เป็นใจให้กับเรา และหลายจังหวะเราก็โชคไม่ดี อย่างไรก็ตาม เรามีแต้มเท่ากับแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (เปแอสเช) และ แชมป์โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส (โบตาโฟโก้)”
แม้แต่ผู้สื่อข่าวสายแอตเลติโก มาดริด จาก As อย่าง เอฟ.เจ. ดิอาซ ยังวิเคราะห์หลังทีมตกรอบว่า “ความจริงคือ แอตเลติโก มาดริด ได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว และเราไม่ควรไปตำหนิอะไรลูกทีมของ ‘โชโล’ มาก สุดท้ายแล้ว แอต.มาดริด ตกรอบด้วยความภาคภูมิใจ พวกเขาชนะได้ 2 จาก 3 นัด และการเก็บได้ 6 แต้มยังไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ”
คำสัมภาษณ์ของ ‘ซิเมโอเน’ ส่งผลให้เกิดการวิจารณ์กันว่า บางทีคนที่เป็นปัญหาของ ‘ตราหมี’ อาจจะเป็น ‘ทัศนคติ’ ของคนเป็นโค้ช โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฆวนมา กาสตานโญ ผู้สื่อข่าวจาก COPE ที่ได้วิจารณ์การสัมภาษณ์หลังเกมของ ‘โชโล’ ว่า “การสัมภาษณ์หลังเกมของ ซิเมโอเน อธิบายสิ่งที่ แอตเลติโก มาดริด เป็นได้อย่างดี และหลาย ๆ คำพูดผมก็ไม่แน่ใจว่าแฟนบอลของพวกเขาจะเห็นด้วยหรือเปล่า เช่น ‘ผมภูมิใจกับการเล่นของนักเตะ เราได้ทุ่มเททุกอย่างแล้ว เราชนะ 2 จาก 3 เกม แต่น่าเสียดายที่เราตกรอบ’ คำพูดเหล่านี้มันไม่มีค่าอะไรเลย เพราะ แอตเลติโก มาดติด ไม่สมควรต่อการตกรอบแรก และการพูดเรื่องเก็บได้ 6 แต้มหรือผู้ตัดสินล้วนป็นข้ออ้าง ซิเมโอเน ได้ให้ทุกอย่างกับสโมสร แต่สโมสรจะเติบโตได้อย่างไรภายใต้แนวคิดแบบนี้”
ดิเอโก้ ซิเมโอเน คือหนึ่งในบุคคลที่สำคัญมากที่สุดประวัติศาสตร์ แอตเลติโก มาดริด อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะนับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีมในปี 2011 ‘โชโล’ ได้ยกระดับทีมที่ก่อนหน้านี้จมอยู่กลางตารางเป็นส่วนใหญ่ ขึ้นมาเป็นทีมที่ดีที่สุดอันดับ 3 ในสเปนอย่างเหนียวแน่น บางปีพวกเขาถึงขั้นขึ้นไปเป็นแชมป์ลาลีกาอย่างในปี 2014 และ 2021 และบางปีถึงขั้นกลายเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในยุโรปอย่างการเข้าถึงรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2014 และ 2016
แต่…นับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา แอต.มาดริด ก็ไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์อีกเลย โดยในลาลีกา พวกเขาเริ่มจะกลายสถานะเป็น “อันดับ 3 ตลอดกาล” ขณะที่ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นเวลากว่า 8 ฤดูกาลติดต่อกันแล้วที่พวกเขาไม่สามารถทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้
จึงก่อให้เกิดคำถามอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงว่า 14 ปีของ ‘ซิเมโอเน‘ กับ ‘ตราหมี’ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้? และสิ่งที่ตัวเขาทำเพื่อสโมสรนับว่าเป็นการรักษามาตรฐานที่ยอดเยี่ยมแล้ว หรือควรยกระดับให้ดีขึ้นกว่านี้ได้อีก? ในฐานะโค้ชผู้มีค่าจ้างสูงที่สุดในโลก (ประมาณปีละ 34 ล้านยูโร) และกับการที่ 12 ปีหลังสุด สโมสรทุ่มเงินซื้อนักเตะไปมากถึง 1.3 พันล้านยูโร มากกว่าคู่แค้นร่วมเมืองอย่าง เรอัล มาดริด 14 ล้านยูโร
ย้อนไปในปี 2022 โจนาธาน ลิว นักเขียนจาก The Guardian เคยเขียนวิเคราะห์สถานการณ์ของ แอตเลติโก มาดริด ไว้ว่า “พวกเขาคือทีมที่ติดกับดักระหว่างอดีตกับอนาคต กับการที่ต้องการจะพัฒนาไปข้างหน้า แต่ยังมีเงาของความสำเร็จในอดีตปกคลุมอยู่ จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แอต.มาดริด จะไปข้างหน้าได้จริง ๆ เหรอ หาก ซิเมโอเน ยังคงอยู่ที่เดิม”
เช่นเดียวกับ อิกนาซิโอ ติลโก จากสำนักข่าว EL Correo ที่ได้เขียนไว้ในปีเดียวกันว่า “โชโล เป็นทั้งปัญหาและทางออกของทีมในเวลาเดียวกัน”
(
superteeded
)
Doomai
ข่าวเด่นกีฬาดัง
superteeded
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ปิดโฆษณานี้
ปิดโฆษณานี้