2. การไกล่เกลี่ยก่อนบังคับคดี สามารถทำได้
• เจ้าหนี้สามารถตกลงเงื่อนไข เช่น ผ่อนชำระ แบ่งจ่าย หรือขยายเวลาชำระหนี้
• การไกล่เกลี่ยอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดความขัดแย้งระหว่างคู่กรณี
• ถ้าตกลงกันได้ ให้ทำ ข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร
ถ้าการไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ก็ต้องดำเนินการบังคับคดีต่อไป
3. เจ้าหนี้ (สยามสปอร์ต) มีสิทธิ์ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี
ถ้าสมาคมฟุตบอลฯ ไม่จ่ายเงิน สยามสปอร์ตต้องไปที่ศาลเพื่อขอ “หมายบังคับคดี” ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ในการบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้
4. ส่งเรื่องให้กรมบังคับคดีดำเนินการ
เมื่อได้หมายบังคับคดีแล้ว สยามสปอร์ตต้องนำไปยื่นต่อ กรมบังคับคดี เพื่อตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีทำหน้าที่ช่วยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของสมาคมฟุตบอลฯ
5. การตรวจสอบว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินอะไรบ้าง
• เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินอะไรที่สามารถยึดได้ หรือ อายัด ได้ เช่น
เงินในบัญชีธนาคาร
ที่ดิน รถยนต์ ฯลฯ
รายได้หรือทรัพย์สินอื่น ๆ
• ถ้าลูกหนี้อ้างว่าไม่มีทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่อาจเรียกมาสอบสวน
6. กาคบังคับคดีโดยการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน
ถ้าพบว่าลูกหนี้มีทรัพย์สิน กรมบังคับคดีสามารถดำเนินการ ยึดหรืออายัด ได้ เช่น
ยึดที่ดิน รถยนต์ ฯลฯ แล้วนำไปขายทอดตลาด
อายัดเงินในบัญชีธนาคารเพื่อใช้หนี้
7. การขายทอดตลาดและนำเงินมาใช้หนี้
• ทรัพย์สินที่ยึดมาได้จะถูกนำออก ขายทอดตลาด
• เงินที่ได้จากการขายจะถูกนำไปใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ (สยามสปอร์ต)
8. การปิดคดีเมื่อจ่ายหนี้ครบถ้วน
ถ้าได้เงินครบ เจ้าหนี้ก็ไม่ต้องดำเนินการอะไรต่อ คดีจะปิด
ถ้ายังได้เงินไม่ครบ เจ้าหนี้ต้องดำเนินการสืบทรัพย์สินเพิ่มเติมต่อไป ภายใน 10 ปี นับแต่ศาลมีคำพิพากษา
ข้อควรรู้
หากสมาคมฟุตบอลฯ ไม่มีทรัพย์สิน เจ้าหนี้อาจต้องรอจนกว่าลูกหนี้จะมีทรัพย์สินในอนาคต หรืออาจดำเนินการ ฟ้องล้มละลาย หากเข้าเงื่อนไข
การบังคับคดีต้องทำภายใน 10 ปี นับจากวันที่ศาลฎีกาตัดสิน
สรุปสั้นๆ :
หลังศาลมีคำพิพากษา สมาคมฟุตบอลฯ ต้องจ่ายชำระหนี้ ภายใน 30 วัน หรือเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ เพื่อตกลงเงื่อนไขการชำระหนี้
ถ้าไกล่เกลี่ยได้ อาจตกลงกันเรื่องผ่อนชำระ ลดหนี้หรือเงื่อนไขอื่น ๆ
ถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ เจ้าหนี้ต้องขอหมายบังคับคดีและยึดทรัพย์สิน
ถ้าพบทรัพย์สิน จะถูกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาใช้หนี้
ถ้ายังไม่ได้เงินครบ อาจต้องดำเนินการสืบทรัพย์สินเพิ่มเติมหรือตรวจสอบเงื่อนไขการฟ้องล้มละลาย