นาทีที่ 6 เจ้าถิ่นได้ทักทายก่อน ไทเรลล์ มาลาเซีย ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้นๆ ในเขตโทษ แต่ เวย์น เฮนเนสซีย์ ใช้ขาเซฟไว้ได้ ก่อนที่บอลจะเด้งไปชนเสาแล้วหลุดออกไปแบบหวุดหวิด
GOAL!! จากนั้น นาที 19 ปีศาจแดง ก็ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเตะมุม คริสเตียน เอริคเซ่น จ่ายบอลเรียดเข้าเขตโทษ แล้วเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่วิ่งมายิงน้ำตาม ส่งบอลพุ่งตุงตาข่าย ทำให้ แมนยู ออกนำ 1-0
GOAL!! ถัดมา นาที 23 เจ้าบ้านก็ได้ประตูที่สองตามมาติดๆ จากจังหวะสวนกลับ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แปบอลที่เส้นเขตโทษ แม้ เวย์น เฮนเนสซีย์ จะล้มตัวปัดได้ปลายมือ แต่บอลก็ยังไหลเข้าประตูไป ทำให้ ปีศาจแดง นำห่าง 2-0
นาที 32 ไรอัน เยตส์ ซัดไกลแบบเต็มข้อ บอลพุ่งแรงและส่ายจน ดาบิด เด เคอา ต้องใช้หน้าอกกระแทกบอลออกจากกรอบประตูไป
ต่อมา นาที 38 แอนโทนี่ ลองปั่นโค้งด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดมุมสามเหลี่ยมเสาไกลออกไปแบบได้ลุ้น
NO GOAL!! นาที 40 ทีมเยือนชวดได้ประตูตีตื้น เรนาน โลดี้ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ แล้วเป็น ไรอัน เยตส์ ที่ขึ้นโหม่งเปลี่ยนทาง บอลไปแฉลบขา วิลลี่ โบลี่ เข้าไปตุงตาข่าย ทว่า VAR ชี้ว่า โบลี่ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า เจ้าป่าจึงไม่ได้ประตู ทำให้จบครึ่งเวลาแรก แมนยู นำ ฟอเรสต์ อยู่ 2-0
ครึ่งหลัง นาที 56 มาร์คัส แรชฟอร์ด แทงบอลทะลุช่องให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนแตะต่อให้ แอนโทนี่ ได้ยิงเน้นๆ ทว่าบอลไปติดเซฟของ เวย์น เฮนเนสซีย์
นาที 60 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ดีดบอลให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทะลุเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่บอลก็ยังไม่ผ่านการป้องกันของนายด่านเจ้าป่า
ถัดมา นาที 67 ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ปาดบอลเข้ากลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงตามน้ำ ทว่า เวย์น เฮนเนสซีย์ ก็ยังใช้เท้าเซฟไว้ได้อีก
นาที 72 คาเซมิโร่ จะชิพบอลข้ามหัวนายทวารทีมเยือน แต่ยังถูกปัดเอาไว้ได้
GOAL!! กระทั่ง นาที 87 ปีศาจแดง ก็มาได้ประตูที่สาม คาเซมิโร่ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนแทงบอลให้ เฟร็ด หลุดไปยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไป ทำให้ แมนยู หนีไปเป็น 3-0
ทำให้หมดเวลาการแข่งขัน เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เปิดบ้านถล่มเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไปแบบขาดลอย 3-0 เก็บ 3 คะแนน ทำให้มีเพิ่มเป็น 29 แต้ม จาก 15 นัด ยังคงรั้งอันดับ 5 แต่ตามหลัง สเปอร์ส เพียงแต้มเดียว โดยที่แข้งน้อยกว่า 1 นัด ส่วนเจ้าป่ายังหยุดอยู่ที่ 13 แต้ม รั้งรองบ๊วยของตารางต่อไป